คุณรู้จัก “สบู่นกแก้ว” กันหรือเปล่า? ยังจำกลิ่นหอมของสบู่ยี่ห้อนี้ได้ดีหรือไม่?
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ.2514 หรือ 52 ปีที่แล้ว ถือเป็นยุคเริ่มต้นของ “สบู่นกแก้ว” สบู่เนื้อแข็ง มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ โดยใช้หัวน้ำหอมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส ถือเป็นสบู่หอมเจ้าแรกในไทย จึงได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก
เนื่องด้วยมีการทำการตลาดด้วยการโฆษณาทางโทรทัศน์เป็นที่แรกๆ และสามารถทำยอดขายได้ถึง 25 ล้านบาทเลยทีเดียว
โดยการทำตลาดของ “สบู่นกแก้ว” จะเน้นการขายในบริเวณต่างจังหวัด เพื่อทำให้เกิดกระจายไปได้อย่างรวดเร็วที่สุด จึงทำให้ “สบู่นกแก้ว” เป็นที่แพร่หลายกันอย่างรวดเร็ว ในระยะเวลาไม่นาน
แต่ต่อมา ตลาดของสบู่ก็ได้มีการนิยมที่เปลี่ยนไป เนื่องจากเศรษฐกิจไทยเฟื่องฟูมาก ส่งผลให้ผู้คนส่วนมากเริ่มหันไปใช้สบู่แบรนด์นอกกันมากขึ้น และความชอบของคนยุคนี้ที่เปลี่ยนไป เลยทำให้ “สบู่นกแก้ว” ไม่ใช่เจ้าตลาดอีกต่อไป ทำให้ยอดขายของ “สบู่นกแก้ว” ตกฮวบ ถือเป็นยุคที่ “สบู่นกแก้ว” เป็นสบู่ที่ถูกลืมเลยก็ว่าได้…
และแล้ว “สบู่นกแก้ว” ก็ได้มีการเกิดใหม่อีกครั้ง ในปี 2540 หลังจากที่เศรษฐกิจไทยเจอวิกฤติครั้งใหญ่ ก่อให้มีการเกิดกระแสรณรงค์ให้ใช้ของไทยเกิดขึ้นมา ทำให้ “สบู่นกแก้ว” ได้พลิกวิกฤตอันใหญ่หลวงนี้ให้เป็นโอกาสที่น่าทึ่ง โดยการทำโฆษณารณรงค์ให้ใช้ของไทย และครั้งนี้ดูเหมือนจะไปได้สวย
นอกจากนั้นยังมีการปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ให้มีการตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเพิ่มให้มีหลายกลิ่น หลากหลายสี มีการผสมมอยส์เจอไรเซอร์ตามสมัยนิยม รวมไปถึงการทำผลิตภัณฑ์อาบน้ำแบบครีม ที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน
รวมไปถึงในยุคหลังๆ ที่ตลาดสบู่สมุนไพรกำลังเริ่มได้รับความนิยม ก็มีการออกผลิตภัณฑ์ “สบู่นกแก้ว”สมุนไพร และ “สบู่แพร์รอทเฮอเบิล” มาสู้
จากแบรนด์สบู่ที่สู่ยุคโลกลืม กลับมาทวงคืนความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง จนปัจจุบันกลายมาเป็นสบู่ที่ทะลุยอดขายสองพันล้านไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว