
ของถูกราคาดี ที่ลูกค้าวิ่งเข้าใส่ แต่อาจจะทำให้แบรนด์ไปไม่ไกลถึงดวงดาว เพราะการไปซื้อของแต่ละทีก็อยากได้ของที่ดีที่สุด ในราคาที่ถูกที่สุด จึงทำให้หลายๆแบรนด์หันมาใช้กลยุทธ์การลดราคามาเป็นตัวเพิ่มแรงกระตุ้นยอดขาย ซึ่งถือว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีอีกวิธีหนึ่งเหมือนกันค่ะ
เพราะจะทำให้ลูกค้าหลายๆท่านหันมาสนใจสินค้าของเราได้อย่างทันที ให้ลองนึกถึงตอนเราเห็นป้ายตัวอักษรสีแดงๆ ที่สะกดว่า ‘S A L E’ ดูนะคะ เรายังต้องหันขวับกันเลยถูกไหมคะ
แต่ใช่ว่าการลดราคาจะไม่มีข้อเสียนะคะ ทุกอย่างย่อมมีสองด้านเสมอค่ะ ถ้าเราลดราคามากจนเกินไป นอกจากจะทำให้กำไรน้อยลงแล้ว ยังจะทำให้เกิดการแข่งกันตัดราคาด้วยค่ะ
นั่นก็คือแบรนด์อื่นๆที่เป็นคู่แข่งก็จะหันมาลดราคาให้ถูกกว่าแบรนด์ของเรา และแบรนด์ของเราก็จะต้องลดราคาแข่งสู้กับแบรนด์คู่แข่งสลับกันไปมา จนในที่สุดเราอาจจะต้องยอมลดราคาจนเข้าเนื้อ ซึ่งก็จะทำให้เกิดข้อเสียมากกว่าข้อดีค่ะ
จึงควรมีการคิดไตร่ตรองและวางแผนให้ดี เพราะถ้าผู้บริโภคเคยชินกับราคาที่ลดอยู่ตลอด หลังจากนี้แบรนด์จะไม่สามารถขายสินค้าราคาปกติได้อีกเลยค่ะ
เมื่อเป็นเช่นนั้น ซินดี้เลยมีทางเลือกอื่นๆมาให้เจ้าของแบรนด์สามารถเลือกใช้ แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาลดราคากันอย่างเดียวค่ะ
อย่างแรกเลย เราอาจจะลองเพิ่มความแปลกใหม่ให้กับสินค้าของเรา เพิ่มความเด่น ให้สินค้าของเราดูเป็นสินค้าที่แปลกใหม่ น่าสนใจ สะดุดตาลูกค้า จนทำให้ลูกค้าหันมาเลือกสินค้าของเรามากกว่าสินค้าของคู่แข่งค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแพ็คเกจ หรือ ดีเทล รูป รส กลิ่น สี ของสินค้า สังเกตได้จากแบรนด์ขนมขบเคี้ยวและเครื่องสำอางที่จะมีรสชาติใหม่หรือคอลเลคชั่นใหม่ออกมาอย่างสม่ำเสมอค่ะ
หรือจะเป็นการใช้วิธีสร้างสตอรี่ เล่าเรื่องให้ดูน่าสนใจ หาที่มาและที่ไปของสินค้าของเรา เพื่อเพิ่มความเข้าใจ และความน่าสนใจให้กับลูกค้าของเรา เพี่อให้ลูกค้าของเราเกิดอาการอินจนเกิดความอยาก หรือความต้องการที่จะครอบครองสินค้าของเราได้ค่ะ ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับฝีมือการเล่าเรื่องของแต่ละแบรนด์ค่ะ ว่าจะงัดไม้เด็ดไม้ไหนออกมาแล้วโดนใจผู้บริโภค
และนี่คือตัวอย่างทางเลือกที่จะช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับเรา แทนที่จะเลือกใช้วิธีลดราคาเพียงอย่างเดียวนะคะ